ถ้าหากพูดถึงเกาะในทะเลเมดิเตอเรเนี่ยนคงไม่มีใครไม่รู้จักเกาะ Sardinia หรือ Sardegna ในภาษาอิตาลี่ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจากเกาะ Sicily นั่นเอง นอกจากนั้นเกาะแห่งนี้ยังเป็นเขตปกครองตนเองของอิตาลี่อีกด้วย ช่วงวันที่ 11-15 พ.ค. ที่ผ่านมามีโอกาสเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดงานประชุมวิชาการของนักเรียนไทยในทวีปยุโรป (TSAC2016) ที่เมือง Alghero เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองยุคกลาง (Medival city) ที่สวยที่สุดและเป็นเมืองที่มีการบำรุงรักษาไว้ได้ดีที่สุดของเกาะ Sardinia แม้ว่าในช่วงหน้าร้อนจะมีเหล่านักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมาเที่ยวที่เมืองแห่งนี้มากมาย แต่เมืองแห่งนี้ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์ที่ราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไปเมื่อเทียบกับบริการที่ได้รับ
ในระหว่างวันที่ 3 - 7 มีนาคมที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมงานประชุมวิชาการที่เมืองมิลาน โดยใช้บริการรถไฟเชื้อสายอิตาเลี่ยนที่ชื่อว่า Thello ที่ให้บริการเชื่อมระหว่างเมืองมิลาน (Milan) ประเทศอิตาลี่ และเมืองหมากเซ่ย(Marseille) ประเทศฝรั่งเศส เริ่มให้บริการครั้งแรกของเส้นทางนี้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2014 เดิมที Thello ให้บริการเชื่อมระหว่าง Paris Gare de Lyon และ Venice Santa Lucia และต่อมาก็เริ่มให้บริการในเส้นทางที่สองคือ Paris Gare de Lyon <--> Rome Termini ก่อนที่จะยกเลิกไปในเดือน ธันวาคม 2013 ทำให้ปัจจุบัน Thello วิ่งให้บริการอยู่เพียงสองเส้นทาง คือ Paris <--> Venice และ Marseille <--> Milan. การซื้อตั๋วก็ทำได้ง่ายๆโดยซื้อจาก เว็บไซต์ Thello , Trenitalia หรือ ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติที่สถานีรถไฟก็ได้ โดยราคาของรถไฟชั้นประหยัดนั้นเริ่มต้นเพียง 30€ โดยต้องจองก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตั๋วราคาชั้นประหยัดนี้ก็มีจำนวนจำกัดนะครับ ออกนอกเรื่องไปไกลแล้วกลับมาที่การเดินทางของลุงแนบกันดีกว่าครับ สำหรับการเดินทางครั้งนี้ตามกำหนดแล้วจะใช้เวลาทั้งหมด 7 ชั่วโมง 20 นาที โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนรถไฟที่ไหน สุดท้ายกว่าจะถึงมิลานรถไฟก็ไปถึงปลายทางสาย 30 นาทีเลยทีเดียว เอาหละพูดถึงการเดินทางไปแล้วก็ที่นี้ก็มาสถานที่ท่องท่องของเมืองนี้กันบ้าง สถานที่แรกเลยคือ Duomo di Milano ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี่ หากไม่นับ St. Peter's Basilica ที่ตั้งอยู่ในประเทศวาติกัน อีกทั้งโบสถ์แห่งนี้ยังเป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับห้าของโลกอีกด้วย จะว่าไปเที่ยวคนเดียวมาก็เยอะ แต่รู้สึกว่าบริเวณหน้า Duomo นี่ดูน่ากลัวจริงๆ มิจฉาชีพบุกมาซึ่งๆหน้า ทั้งพวกผูกแขน ขายอาหารนก ไกด์บุ๊ค และพวกที่ไม่น่าไว้ใจอื่นๆ ช่วงหัวค่ำนี่ชุกชมมาก พอมืดแล้วก็ค่อยๆหายไป จะตั้งกล้องถ่ายรูปที ต้องเดินไปที่รถตำรวจ แล้วตั้งมันต่อหน้าตำรวจนั้นแหละ ถ่ายจนหนำใจแล้วค่อยไป ตำรวจก็ได้แต่มองแล้วขำๆ ว่าไอ้นี่มันทำอะไรของมันอยู่คนเดียว !!
หลังจากที่เดินเที่ยว Vicenza จนเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อไปยัง Padova โดย regional train ใช้เวลาไม่ถึง 30นาทีก็ถึงแล้ว Padova เป็นอีกหนึ่งหัวเมืองใหญ่ของแคว้น Veneto เมืองนี้ตั้งอยู่ระหว่าง Vicenza และ Venezia และเมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองที่มีมหาลัยที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของอิตาลี่ซึ่งก็คือ Universiry of Padova ที่มีอายุกว่า 800ปี และที่สำคัญนักวิทยาศาสตร์ที่เลื่องชื่อชาวอิตาเลี่ยน Galileo Galilei ก็เคยสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกด้วย
ช่วงวันที่ 11-25 มกราคม 2015 มีโอกาสไปทำงานร่วมกับทีมวิจัยที่เมือง Trento อีกครั้ง และครั้งนี้คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กลับมาทำงานที่เมืองนี้เนื่องได้มาทำงานที่นี่ครบ 4 ครั้งตามที่ตกลงกันไว้แล้ว ส่วนในอนาคตนั้นไม่อาจบอกได้ว่าจะได้กลับมาที่เมืองนี้อีกหรือเปล่า ในเมื่อระหว่างสัปดาห์ทำงานหนักมาตลอดแล้วเมื่อ Weekend มาถึงจะให้อยู่ห้องพักทำงานอีกก็คงน่าเบื่อมากๆ เลยมองหาว่ายังมีเมืองไหนอีกบ้างที่ยังไม่เคยไปเยี่ยมเยือนในภูมิภาคนี้ ตอนแรกก็คิดว่าจะนั่งรถไฟไป Innsbruck ประเทศออสเตรียซึ่งห่างจาก Trento ไปไม่มากนัก สามารถนั่งรถไฟไปได้โดยใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง 30นาที แต่มาติดปัญหาที่หาหอพักไม่ได้ ที่ยังพอหาได้ก็มีแต่ราคาแพงๆทั้งนั้น เลยต้องหันกลับมามองว่ายังมีเมืองไหนที่อิตาลี่ที่ยังไม่เคยไปบ้าง ก็เลยมาเจอ Vicenza และ Padova ที่ยังไม่เคยไปเลย แล้วก็อยู่ไม่ห่างจาก Trento มากด้วย เลยตัดสินใจว่าจะออกตั้งแต่เช้าวันที่ 17 มกราคม เดินเที่ยวที่ Vicenza ชิวๆ แล้วตอนเย็นค่อยไปพักที่ Padova แล้วก็เที่ยวต่อที่ Padova ก่อนจะเดินทางกลับ Trento ในบ่ายวันอาทิตย์แทน.
|
Authorlสมุดบันทึกการเดินทางเล่มเล็กๆของ"ลุงแนบ" ที่จะพาท่านไปรู้จักกับสถานที่ต่างๆที่ "ลุงแนบ" มีโอกาสไปเยือน ทั้งไปเที่ยวและไปทำงาน เชิญตามไปเที่ยวกันได้เลยครับ !! Archives
October 2015
Categories
All
|